วิธีทำน้ำกระท่อม
1.ใบกระท่อม ขนาดพอดี 25ถึง30.[ เเต่ประมาณนี้แหละครับเมากำลังดี ใส่ใบในน้ำ 1.2 ของหม้อหุงข้าวขนาดกลางๆ จากนั้น ขยี้ให้น้ำในใบกระท่อมออกมา ใครจะไม่ขยี้ก็ได้ พอได้น้ำท่อมที่ขยี้เเล้ว นำไปต้ม ปรับไฟพอดีๆ ต้มไปประมาณเกินครึ่งชั่วโมงเเล้วจับที่ก้านดูถ้ามันเปื่อยเเล้วก็ใช้ได้ ยกออกเเล้วกรองเอาเเต่น้ำห้ามให้มีกากหรือเศษใบตกลงไปจากนั้นทำให้มันเย็น ก่อนจะผสมต้องทำให้น้ำท่อมที่ต้มมาเย็นก่อนเย็นเเบบสุดๆไปเลย เเล้วใส่ยาแก้ไอน้ำเชื่อมเด็กที่มันหวานๆ เช่นตราไก่ เอนาดริล ซีเฟน
วันพุธที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2559
วันอังคารที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2559
วิธีทำ
วิธีทำน้ำกระท่อม
1.ใบกระท่อม ขนาดพอดี 25ถึง30.[ เเต่ประมาณนี้แหละครับเมากำลังดี ใส่ใบในน้ำ 1.2 ของหม้อหุงข้าวขนาดกลางๆ จากนั้น ขยี้ให้น้ำในใบกระท่อมออกมา ใครจะไม่ขยี้ก็ได้ พอได้น้ำท่อมที่ขยี้เเล้ว นำไปต้ม ปรับไฟพอดีๆ ต้มไปประมาณเกินครึ่งชั่วโมงเเล้วจับที่ก้านดูถ้ามันเปื่อยเเล้วก็ใช้ได้ ยกออกเเล้วกรองเอาเเต่น้ำห้ามให้มีกากหรือเศษใบตกลงไปจากนั้นทำให้มันเย็น ก่อนจะผสมต้องทำให้น้ำท่อมที่ต้มมาเย็นก่อนเย็นเเบบสุดๆไปเลย เเล้วใส่ยาแก้ไอน้ำเชื่อมเด็กที่มันหวานๆ เช่นตราไก่ เอนาดริล ซีเฟนดริล อะไรก็ได้ที่มันมีคำหลังว่าดริล เเละต้องเป็นยาแก้ไอน้ำเชื่อมเท่านั้นถึงจะอร่อย ใส่ไปประมาณครึ่งขวดหรือเเล้วเเต่ท่านจะชอบหวานมากหรือน้อยอยู่ที่ยา ไม่ใช่โค๊ก คนให้เข้ากันจากนั้นใส่โค๊ก ต้องโค๊กเท่านั้นประมาณ1แก้ว คนให้ส่วนผสมเข้ากันทุกอย่าง เออลืมบอกไปต้องหาน้ำเเข็งมาใส่ในกะละมังเเล้วเอาหม้อที่ท่านผสมอ่ะมาวางบนน้ำเเข็ง เเค่นี้ก็กินได้เลย สบายตัว เพลินๆ

ผลเสีย
ผลเสีย - ปากแห้ง ปัสสาวะบ่อย เบื่ออาหาร ท้องผูก
- เมื่อบริโภคไปนาน ๆ อาจทำให้ติดได้ เมื่อไม่ได้บริโภคจะรู้สึกไม่มีแรง ซึมเศร้า นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร บางรายก้าวร้าวแต่เป็นมิตร (Hostility) อย่างไรก็ตามไม่เคยปรากฏว่ามีคนเสียชีวิตหรือทำร้ายผู้อื่นจากการบริโภคพืชกระท่อม
ผลดี
ผลดี - ใช้ใบกระท่อมทดแทนการติดฝิ่นหรือมอร์ฟีนซึ่งมีฤทธิ์รุนแรงกว่าได้ ทำให้ผู้บริโภคมีสุขภาพดีขึ้น
- เมื่อบริโภคแล้วจะทำงานได้มากกว่ากรณีปกติทั่วไปและไม่ปรากฏว่าเป็นผู้ก้าวร้าวหรือไม่ก่ออาชญากรรมแต่อย่างใด ซึ่งตรงข้ามกับผู้เสพสุราหรือยาบ้า
- ประชาชนผู้บริโภคพืชกระท่อมแล้วทำงานจะเกิดความรู้สึกที่ดีและได้รับความเป็นธรรมและยอมรับจากสังคม
- เมื่ออารยประเทศต่าง ๆ ไม่ได้มีการควบคุมพืชกระท่อมเลย ดังนั้น การที่ประเทศไทยไม่ควบคุมก็ไม่เสียหายต่อชาวโลกเช่นกัน
- เมื่อบริโภคแล้วจะทำงานได้มากกว่ากรณีปกติทั่วไปและไม่ปรากฏว่าเป็นผู้ก้าวร้าวหรือไม่ก่ออาชญากรรมแต่อย่างใด ซึ่งตรงข้ามกับผู้เสพสุราหรือยาบ้า
- ประชาชนผู้บริโภคพืชกระท่อมแล้วทำงานจะเกิดความรู้สึกที่ดีและได้รับความเป็นธรรมและยอมรับจากสังคม
- เมื่ออารยประเทศต่าง ๆ ไม่ได้มีการควบคุมพืชกระท่อมเลย ดังนั้น การที่ประเทศไทยไม่ควบคุมก็ไม่เสียหายต่อชาวโลกเช่นกัน
สรรพคุณทางยา
สรรพคุณทางยา ตำราแพทย์แผนโบราณ ใช้ใบกระท่อมปรุงเป็นยา เรียกว่า ประสะกระท่อม ใช้รักษาโรคบิด แก้ปวดมวนท้อง ปวดเบ่ง ปวดเมื่อยร่างกาย ท้องเฟ้อ ท้องเสีย ท้องร่วง ทำให้นอนหลับ และระงับประสาท ในมุมมองของแพทย์แผนไทยส่วนใหญ่ จะนำพืชกระท่อมมาใช้เป็นยาแก้ท้องร่วง และที่กล่าวว่ามีประสะกระท่อมนั้น แสดงว่าในใบกระท่อมนั้นมีพิษอยู่ด้วย คนโบราณนั้น หากยาชนิดไหนที่มีพิษจะมีการประสะ คือ ทำให้พิษอ่อนลง และสามารถทำได้หลายรูปแบบ อาทิต้ม การคั่ว หรือผสมกับสารตัวอื่นในปริมาณที่เท่ากัน ก็จะเรียกว่าประสะ ในทางแผนโบราณนั้นหากเป็นยาจะต้องมีการผสม มีประสะ แก้พิษ จะต้องเป็นตำรับซึ่งจะต้องมีความพอดี รับประทานเข้าไปแล้วจะไม่มีผลข้างเคียงและไม่ติด เนื่องจากแพทย์เป็นผู้สั่งใช้ และที่สำคัญในอดีตเคยมีการนำกระท่อมมาทดแทนฝิ่นหรือเฮโรอีนได้ เนื่องจากกระท่อมสามารถลดอาการถอนยา อาการปวดเมื่อย และรักษาอาการอยากยาได้
สูตรการผสม
สำหรับสูตรที่ผสมเป็นหลักคือ น้ำใบกระท่อม โค้ก ยาแก้ไอหรือยากล่อมประสาท
เหตุผลที่เรียกกันว่า 4x100 ก้อเนื่องจากมีการนำมาผสมในสูตรต่างๆดังนี้
สูตรที่1 น้ำต้ม ใบกระท่อม โค้ก ยาแก้ไอ ยากันยุง
สูตรที่2 น้ำต้ม ใบกระท่อม โค้ก ยาแก้ไอ กาแฟ ซึ่งแถวจังหวัดระนอง เรียกว่า one to call
สูตรที่3 น้ำต้ม ใบกระท่อม โค้ก ยาแก้ไอ นมเปรี้ยว ซึ่งเป็นสูตรแถวจังหวัดระนอง
ประวัติความเป็นมาของน้ำกระท่อม
การแพร่ระบาดยาเสพติดในพื้นที่ ก่อนปี พ.ศ.2548 จะประกอบด้วย เฮโรอีน กัญชา ยาบ้า สารระเหย ยาแก้ไอ (ข้อมูลจากศูนย์บำบัดรักษายาเสพติดปัตตานี) โดยก่อนหน้านี้ในช่วงสงครามยาเสพติดที่มีการปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจังเกิดขึ้น ทำให้สงครามครั้งนั้นสารเสพติด หายากขึ้น ราคาแพงจากเดิมหลายเท่าตัว มีผู้เสพส่วนหนึ่งเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการเสพสารเสพติดชนิดใหม่เข้ามาแทน เช่น ใบกระท่อม ผู้เสพส่วนหนึ่งเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการเสพสารเสพติดชนิดใหม่เข้ามาแทน เช่น ใบกระท่อม หรือ การนำน้ำต้มใบกระท่อมมาผสมในสูตรใหม่ที่ชื่อ 4x100 (สี่คูณร้อย)
ปัจจุบันใบกระท่อมมีปัญหาการแพร่ระบาดในกลุ่มวัยรุ่นและนักเรียน อาจเนื่องมาจากมีราคาถูกและทำให้เกิดอาการเคลิบเคลิ้มได้เช่นเดียวกับสารเสพติดอื่น ใบกระท่อม ได้ถูกนำมาเป็นสารตั้งต้นสำคัญของยาเสพติดชนิด “สี่คูณร้อย” โดยมักนิยมนำน้ำกระท่อมต้ม ผสมกับโค้ก ยากันยุง และยาแก้ไอ (สี่คูณร้อย) ซึ่งวัยรุ่นในพื้นที่นิยมเสพเป็นแฟชั่นสังสรรค์ในกลุ่มเพื่อนตามร้านน้ำชา เพื่อให้รู้สึกสนุกสนานคึกคัก มึนเมา เริ่มแพร่ระบาดมาตั้งแต่ปี 2547 กระทั่งปัจจุบัน
จากรายงานของสำนักงาน ป.ป.ส. ภาค 9 พบว่า สถานการณ์แพร่ระบาดของพืชเสพติดชนิดกระท่อม ในปี 2547 เป็นต้นมา สถานการณ์การค้าและแพร่ระบาดเพิ่มสูงมากขึ้น จนกระทั่งในปี 2549-2550 กระท่อมกลายเป็นตัวยาหลักอันดับ 3 การค้าและแพร่ระบาดพืชกระท่อมในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสงขลา ในพื้นที่อำเภอสะบ้าย้อย อำเภอจะนะ อำเภอนาทวี และอำเภอเทพาโดยเฉพาะ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นพื้นที่หลักของปัญหายาเสพติดในปัจจุบัน

สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)